(https://www.khaosod.co.th/wpapp/uploads/2022/04/31307-6.jpeg)
"บิ๊กป๋อม" อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานพัฒนาฟุตซอลและฟุตบอลชายหาดทีมชาติไทย เปิดเผยถึงการคว้าแชมป์ เอเอฟเอฟ ฟุตซอล แชมเปี้ยนชิพ 2022 สมัยที่ 16 ของทีมชาติไทย หลังดวลจุดโทษชนะ อินโดนีเซีย 7-5 (ในเวลาเสมอ 2-2) ว่า ชิงแชมป์อาเซียนครั้งที่ 17 เกมนี้ถือเป็นสุดยอดแมตซ์ตลอดกาลในการชิงแชมป์อาเซียน ไม่เพียงเฉพาะว่าเรากลับมาได้ เราเล่นอยู่ในเกมที่ค่อนข้างมาตรฐานดี กับทีมอินโดนีเซียที่เขามีเกมรับที่แข็งแกร่งมาก แต่ว่าด้วยความผิดพลาด อาจจะมีประสบการณ์น้อย ก็ทำให้เกมดูอึดอัดไปบ้าง"
"แต่สิ่งที่ผมประทับใจมากที่สุดอันหนึ่ง แล้วก็ดีใจมาก ทีมชุดนี้โชว์ถึงคาแรกเตอร์ที่ต้องการเป็นผู้ชนะ หรือกลับมาสู้อยู่ตลอดเวลา อันนี้มีคุณค่ามากกับทีมชุดนี้ ขอแสดงความยินดีกับน้องๆทุกคนในทีมชุดนี้ แน่นอนว่าภาคภูมิใจกับนักกีฬาและสต๊าฟโค้ช ก็ต้องขอขอบคุณจริงๆว่า เกมนี้เสียงเชียร์ทั้งในและนอกสนามได้ช่วยให้เราสามารถกลับมาเป็นไทยแลนด์และรักษาแชมป์เป็นสมัยที่ 16 อยากจะพูดว่าภาคภูมิใจและดีใจเป็นอย่างมาก ที่น้องๆผ่านจุดที่ดี และรักษาแชมป์ได้ และก็ได้ไปเอเชียนคัพตามเป้าหมาย"
ด้าน "บิ๊กสุ" สุทิน บัวตูม ผู้จัดการทีมฟุตซอลทีมชาติไทย เปิดเผยว่า "ขอบคุณจิตใจน้องๆนักเตะที่รวมใจกลับมาได้ พวกเราไม่ยอมแพ้ เราทำ 2 ประตูได้ในช่วงนาทีสุดท้ายซึ่งมาจากนักเตะชุดนี้ที่เป็นนักเตะสายเลือดใหม่ เราจะพัฒนาต่อไปในอนาคต ผมขอมอบถ้วยรางวัลให้แฟนฟุตซอลไทยและคนไทยทั้งประเทศทั้ง 70 ล้านคน กับความสุขที่เรามอบให้เพื่อก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19ไปพร้อมๆกัน"
"ผมขอขอบคุณทุกๆท่าน ส.บอลฯ โดยพี่ป๋อม-คุณอดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ รวมถึงนายก ส.บอลฯ ซึ่งทำให้เรากลับมาได้ และกลับมาคว้าแชมป์ได้ โดยจากการเป็นแชมป์ ก็มีเงินอัดฉีดจากผู้ใหญ่ ทั้ง พี่ป๋อม-คุณอดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ มอบ 800,000 บาท , พญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด มอบเงินอัดฉีดเพื่อเป็นขวัญกำลังใจกับนักฟุตซอลไทย 500,000 บาท รวมถึง คุณราหุล ปิลานิวาลา และ คุณเจริญ เศรษฐี 2 ผู้บริหารเครื่องดื่ม CR7 Gold อัดฉีดให้อีก 500,000 บาท รวมถึงกลุ่มเพื่อนสุทินระดมทุนมอบให้อีก 200,000 บาท รวมกว่า 2,000,000 บาท"
ขณะ คาร์ลอส เซซาร์ เฮดโค้ชฟุตซอลทีมชาติไทย กล่าวว่า "มันเป็นเกมที่สำคัญมากๆสำหรับผู้เล่นสายเลือดใหม่ของเราที่ได้เรียนรู้หลายๆอย่างมากๆสำหรับเกมนี้ เราคือผู้ชนะและต้องบอกว่าอินโดนีเซียเป็นคู่ต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมมากๆในปีนี้ นี่คือฟุตซอลสมัยใหม่ แม้แต่ในระดับโลกแต่ละทีมมันก็ไม่ได้ห่างกันมากแล้ว อยากให้แฟนๆชาวไทยเข้าใจและซัพพอร์ตนักเตะต่อไป ขอมอบแชมป์ให้กับแฟนฟุตซอลที่เข้ามาเชียร์และดูอยู่ขอบคุณทุกแรงเชียร์ที่มีให้กับเรา"
ส่วนรางวัลต่างๆมีดังนี้
แชมป์ทีมชาติไทย, รองแชมป์ ทีมชาติอินโดนีเซีย, อันดับ 3 ทีมชาติเวียดนาม, อันดับ 4 ทีมชาติเมียนมา โดยอันดับ 1-3 คว้าโควตาฟุตซอลเอเชียนคัพ ที่คูเวต ระหว่างวันที่ 25 ก.ย.65-20 ต.ค.65
รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยม "กัปตันช้าง" กฤษดา วงษ์แก้ว ทีมชาติไทย
มอบรางวัลโดย พลอากาศเอก สุรศักดิ์ มีมณี ประธานอำนวยการจัดการแข่งขัน
รางวัลดาวซัลโว มูฮัมหมัด อุสมานมูซา หน้าเป้าทีมชาติไทย ยิงไปทั้งหมด 11 ประตู
มอบรางวัลโดย นายวิษณุ ไล่ชะพิษ รองผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย
รางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม มูฮัมหมัด อัลบากีร์ นายด่ายทีมชาติอินโดนีเซีย
มอบรางวัลโดย คุณลัขณานันต์ ลักษมีธนานันต์ อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ